ครูหัวใจเกษตร ปลูกมันม่วงหวาน ออเดอร์ปัง!
ครูหัวใจเกษตร มันม่วงหวาน ออเดอร์ปัง ปลูกแล้วไม่พอขาย!
คุณครูหัวใจเกษตร จับจอบปลูกมันหวาน ผลผลิตคุณภาพ ออร์เดอร์ปัง ปลูกไม่พอขาย คุณไร-จารุพิชญา อุปัญ วัย 37 ปี ครูสาวจากจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งความน่าสนใจของแม่พิมพ์ของชาติท่านนี้มีอยู่ว่า
นอกจากจะมีอาชีพหลักเป็นครูแล้ว เธอยังปลูกมันหวานขายเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย ซึ่งรายได้จากการขายมันหวานนั้น บอกเลยว่าไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เลยสักนิดคุณไร เล่าว่า เธอเป็นสาวต่างจังหวัด เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ เมื่อร่ำเรียนจนจบก็ทำงานเป็น
ผู้ช่วยผู้จัดการในร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง แต่เพราะเมืองหลวงนั้นแสนวุ่นวาย ใช้ชีวิตไปแล้วรู้สึกว่ามันไม่ถูกจริต ประจวบเหมาะกับแต่งงานมีครอบครัว พอทำงานได้ 4 เดือน ก็ลาออกมาเลี้ยงลูก และย้ายไปอยู่กับสามีที่จังหวัดสระบุรี แต่ชีวิตครอบ
ครัวก็ไม่ได้ราบรื่น 5 ปีหลังจากนั้นก็มาถึงจุดที่ต้องแยกทางกับอดีตสามี คุณไรจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดมุกดาหาร แล้วสมัครเข้าไปทำงานในห้างสรรพสินค้า ทำไปได้ประมาณ 2 ปี เธอก็เห็นประกาศรับสมัครตำแหน่งครูพี่เลี้ยงเด็ก
พิการ อีกทั้งเกิดความคิดในใจว่า ตนน่าจะทำประโยชน์อะไรได้มากกว่านี้ จึงหาทางไปเรียนต่อเป็นครู เมื่อสอบครูได้ก็มาเป็นครูอัตราจ้างที่หมู่บ้านของตัวเอง โดยสอนวิชาการงาน ตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1- 6 เพื่อเก็บชั่วโมงไปเรียนต่อปริญญาบัณฑิต
แต่เหมือนว่าการเป็นครู ก็ยังไม่ตอบโจทย์ชีวิตเธอสักเท่าใดนัก ระหว่างที่ครุ่นคิด เธอก็เห็นว่า ในทุกวันที่ไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้า เธอเห็นพวกมันเทศวางขายข้างทางเต็มไปหมด ด้วยความที่ทั้งตัวเธอเองและคนที่บ้านนั้นชอบทานมันเทศ จึงเกิดความ
คิดขึ้นมาว่า ทำไมไม่ปลูกทานเองล่ะ? “ระยะทางจากบ้านไปที่ที่ทำงาน เราเห็นมันเทศวางขายอยู่ข้างทาง แล้วเราก็ชอบซื้อมากินบ่อยๆ คนที่บ้านก็ชอบ ก็เลยเกิดเป็นความคิดขึ้นมาว่า เออ เราก็ชอบทานกัน แล้วทำไมไม่ปลูกกินเองไปเลยล่ะ ที่ที่บ้านก็
มีให้ปลูก เพราะที่บ้านก็ทำเกษตร ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย ยางพาราอะไรแบบนี้อยู่แล้ว มัวแต่มาเสียเงินซื้อ แถมปลอดภัยด้วยเพราะเราปลูกเองกินเอง ไม่ใส่สารเคมีแน่ๆ แล้วรุ่นน้องที่รู้จักกันเขาทำอยู่ ก็เลยไปเรียนรู้จากเขา แล้วก็ได้ยอดพันธุ์มันมา โดย
มีรุ่นน้องคอยเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำเสมอๆ” ครูสาว เล่าเมื่อเรียนรู้วิธีการปลูกครบจบกระบวนความ ครูไรจึงเริ่มลงมือปลูกโดยใช้พื้นที่ 1 งาน เพื่อศึกษาลักษณะของมันแต่ละสายพันธุ์ ว่าเหมาะกับการปลูกสภาพพื้นที่แบบใด และเธอจึงได้ค้นพบว่า มัน
ของไทยนั้นใช้เวลาปลูก 4-9 เดือน กว่าจะได้ผลผลิต แต่มันของญี่ปุ่น ใช้เวลาเพียง 2 เดือนก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว เมื่อเรียนรู้ผสานกับการลงมือทำจนเชี่ยวชาญ เธอจึงขยายพื้นที่ปลูก จาก 1 งาน มาเป็น 2 งาน 3 งาน เรื่อยๆ จนปัจจุบัน เธอมีพื้นที่สำ
หรับปลูกมันหวานญี่ปุ่นทั้งหมด 3 ไร่ สายพันธุ์ที่เลือกปลูกก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันหวานญี่ปุ่นซิลสวีท มันหวานญี่ปุ่นส้มโอกินาวา มันหวานญี่ปุ่นเหลืองเบนิฮารุกะ มันหวานญี่ปุ่นซากุระไวน์ มันม่วงญี่ปุ่นเพอเพิล สวีท มันม่วงเกาหลี มันม่วงไต้
หวัน และมันม่วงฮาวาย“ข้อมูลการปลูกก็ศึกษาเอาจากอินเตอร์เน็ต ถามเอาจากผู้ที่เขามีความรู้ความเชี่ยวชาญบ้าง ตอนนี้ก็ปลูกมาได้ 3-4 ปีแล้วค่ะ ผลตอบรับดีค่ะ เพราะปลูกแบบอินทรีย์ ปุ๋ยบำรุงก็ทำเอง มีเข้ามาเรื่อยๆ เพราะเราขายทั้งออนไลน์
แล้วก็ตลาดแถวบ้าน ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นคนภาคใต้และก็นิสิต นักศึกษา ของ ม.อุบลฯ นี่แหละค่ะ แล้วก็ทางออนไลน์ ตามกลุ่มขายมันก็มีออร์เดอร์เข้ามาทุกวัน” “เคยทดลองนำมันที่ปลูกมาแปรรูปเป็นพวกข้าวเกรียบ มันหวาน มันฉาบ ผงมันม่วง
หมือนกัน แต่ยอดสั่งเข้ามาเยอะจนของไม่พอขาย ไม่เหลือพอจะเอามาแปรรูป ด้วยมันเราเนื้อแน่น หวาน และปลูกแบบเกษตรปลอดสาร คือเราผลิตเพราะอยากให้คนกินแบบที่เราได้กิน ซึ่งมันปลอดสารจริงๆ คนเลยนิยมค่ะ”